พื้นที่อันตราย (Hazardous Area) และระบบ Intrisic Safety

ในโรงงานอุตสาหกรรมนั้นมีบริเวณที่เป็น “พื้นที่อันตราย” (Hazardous Area) ซึ่งคือ พื้นที่ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดการระเบิดหรือไฟไหม้สูง🔥
 
โดยมีการแบ่งความอันตรายของพื้นที่ตามความหนาแน่นของปริมาณก๊าซ, สารไวไฟ และฝุ่นบริเวณพื้นที่นั้น ๆ ตามมาตรฐาน IEC 60079
▶️จำแนกพื้นที่อันตรายกรณีบริเวณนั้นคือแก๊สหรือน้ำมัน ได้แก่ Zone 0/1/2
▶️จำแนกพื้นที่อันตรายกรณีบริเวณนั้นคือฝุ่น ได้แก่ Zone 20/21/22
.
⭕️ Zone 0 และ Zone 20
พื้นที่ที่มีความหนาแน่นของสารไวไฟและฝุ่นปะปนอยู่ในระดับเข้มข้น มีสารอันตรายอยู่ในพื้นที่นั้นมากกว่า 1,000 ชั่วโมงต่อปี “สามารถระเบิดหรือติดไฟได้ตลอดเวลา”
.
⭕️ Zone 1 และ 21
พื้นที่ที่มีความหนาแน่นของสารไวไฟและฝุ่นปะปนเข้มข้นพอที่จะ “เกิดระเบิดได้เป็นครั้งคราว” มีสารอันตรายอยู่ในพื้นที่นั้นมากกว่า 10-1,000 ชั่วโมงต่อปี
.
⭕️Zone 2 และ Zone 22
พื้นที่ที่เกือบจะไม่มีความหนาแน่นของสารไวไฟหรือไม่มีฝุ่นปะปนอยู่ในบรรยากาศพอที่จะเกิดระเบิดได้ อาจจะเป็นการรั่วไหลในช่วงเวลาสั้น ๆ ระดับสารอันตรายอยู่ในพื้นที่นั้นไม่เกิน 10 ชั่วโมงต่อปี
.
ดังนั้นในโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดการระเบิด จึงควรมีระบบ “Intrinsic Safety” ระบบที่ออกแบบสำหรับใช้งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเครื่องมือวัดที่ใช้งานในพื้นที่อันตราย (Hazardous Area) โดยระบบจะทำงานโดยจำกัดพลังงานให้ต่ำกว่าเกณฑ์ ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเครื่องมือวัดไม่สามารถเกิดการระเบิดหรือติดไฟได้
.
หากไม่มีการติดตั้งระบบ Intrinsic Safety เมื่อมีการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรระหว่างเครื่องมือวัดในพื้นที่อันตรายและ Power Supply หรือเมื่อได้รับแรงดันไฟฟ้าสูง เช่น ฟ้าผ่า จะทำให้อุปกรณ์ในพื้นที่อันตรายเสียหายหรือการระเบิดได้
.
แต่ถ้าหากมีการติดตั้งระบบ Intrinsic Safety เมื่อได้รับแรงดันไฟฟ้าสูงจาก Power Supply ระบบจะกำจัดแรงดันที่เกินเข้ามา ลงสู่ Ground ทำให้อุปกรณ์ที่อยู่ในพื้นที่อันตรายปลอดภัย ไม่สามารถเกิดการระเบิดหรือติดไฟได้